วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สระ

สระ

              เสียงสระในภาษาไทยแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ สระเดี่ยว สระประสม และสระเกิน สะกดด้วยรูปสระพื้นฐานหนึ่งตัวหรือหลายตัวร่วมกัน สระเดี่ยว หรือ สระแท้ คือสระที่เกิดจากฐานเพียงฐานเดียว มีทั้งสิ้น 18 เสียง อักษรโรมันที่กำกับเป็นระบบถอดอักษรของราชบัณฑิตยสถาน
สระเดี่ยวสระผสม
              สระประสม คือสระที่เกิดจากสระเดี่ยวสองเสียงมาประสมกัน เกิดการเลื่อนของลิ้นในระดับสูงลดลงสู่ระดับต่ำ ดังนั้นจึงสามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "สระเลื่อน" มี 3 เสียงดังนี้
ีย /iːa/ ประสมจากสระ อี และ อา ia
ือ /ɯːa/ ประสมจากสระ อือ และ อา uea
ัว /uːa/ ประสมจากสระ อู และ อา ua
              
              ในบางตำราจะเพิ่มสระสระประสมเสียงสั้น คือ เียะ เือะ ัวะ ด้วย แต่ในปัจจุบันสระเหล่านี้ปรากฏเฉพาะคำเลียนเสียงเท่านั้น เช่น เพียะ เปรี๊ยะ ผัวะ เป็นต้น
สระเกิน คือสระที่มีเสียงของพยัญชนะปนอยู่ มี 8 เสียงดังนี้

 /am, aːm/ am ประสมจาก อะ + ม (อัม) เช่น ขำ บางครั้งออกเสียงยาวเวลาพูด (อาม) เช่น น้ำ
– /aj, aːj/ ai ประสมจาก อะ + ย (อัย) เช่น ใจ บางครั้งออกเสียงยาวเวลาพูด (อาย) เช่น ใต้
– /aj, aːj/ ai ประสมจาก อะ + ย (อัย) เช่น ไหม้ บางครั้งออกเสียงยาวเวลาพูด (อาย) เช่น ไม้
 /aw, aːw/ ao ประสมจาก อะ + ว (เอา) เช่น เกา บางครั้งออกเสียงยาวเวลาพูด (อาว) เช่น เก้า
 /rɯ/ rue, ri, roe ประสมจาก ร + อึ (รึ) เช่น ฤกษ์ บางครั้งเปลี่ยนเป็น /ri/ (ริ) เช่น กฤษณะ หรือ /rɤː/ (เรอ) เช่นฤกษ์
ฤๅ /rɯː/ rue ประสมจาก ร + อือ (รือ)
 /lɯ/ lue ประสมจาก ล + อึ (ลึ)
ฦๅ /lɯː/ lue ประสมจาก ล + อือ (ลือ)

               บางตำราก็ว่าสระเกินเป็นพยางค์ ไม่ถูกจัดว่าเป็นสระ

สระบางรูปเมื่อมีพยัญชนะสะกด จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปสระ 
1 คำที่สะกดด้วย ะ + ว นั้นไม่มี เพราะซ้ำกับ ัว แต่เปลี่ยนไปใช้ เา แทน
2 คำที่สะกดด้วย อ + ร จะลดรูปเป็น ร ไม่มีตัวออ เช่น พร ศร จร ซึ่งก็จะไปซ้ำกับสระ โะ ดังนั้นคำที่สะกดด้วย โะ + ร จึงไม่มี
3 สระ เอะ ที่มีตัวสะกดใช้รูปเดียวกับสระ เอ เช่น เงิน เปิ่น เห่ย
4 คำที่สะกดด้วย เอ + ย จะลดรูปเป็น เย ไม่มีพินทุ์อิ เช่น เคย เนย เลย ซึ่งก็จะไปซ้ำกับสระ เดังนั้นคำที่สะกดด้วย เ– + ย จึงไม่มี
5 พบได้น้อยคำ เช่น เทอญ เทอม

6 มีพยัญชนะสะกดเป็น ย เช่น ไทย ไชย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น